วันพฤหัสบดีที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2556

@เชียงใหม่- เชียงราย day4 "วัดพระแก้ว ร้านกาแฟชีวิตธรรมดา"


ตื่นเช้ามาวันที่4 เตรียมตัวกลับ เชียงใหม่ แต่วันนี้วันพระ ขอไปถวายสังฆทาน วัดประจำเมืองเชียงรายหน่อยเหอะ ^^

fact.
วัดพระแก้ว ตั้งอยู่ที่ถนนไตรรัตน์ ใจกลางเมืองเชียงราย วัดนี้เองที่ได้ค้นพบ พระแก้วมรกต หรือพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ที่ประดิษฐานอยู่ ณ วัดศรีรัตนศาสดาราม(วัดพระแก้ว) กรุงเทพฯ ในปัจจุบัน ตามประวัติเล่าว่า เมื่อปี พ.ศ. 1897 ในสมัย พระเจ้า สามฝั่งแกน เป็นเจ้าเมือง ครองเชียงใหม่นั้น ฟ้าได้ผ่า เจดีย์ร้างองค์หนึ่ง และได้พบ พระพุทธรูปลงรักปิดทอง อยู่ภายในเจดีย์ ต่อมารักกะเทาะออก จึงได้พบว่า เป็นพระพุทธรูป สีเขียวที่สร้างด้วยหยก ซึ่งก็คือ พระแก้วมรกตนั่นเอง ปัจจุบัน วัดพระแก้ว เชียงราย เป็นที่ประดิษฐาน พระหยก ซึ่งสร้างขึ้นใหม่ ในวาระที่ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี มีพระชนมายุครบ 90 พรรษา


สาธุๆ 

วัดพระสิงห์
วัดพระสิงห์  เชียงราย เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ ตั้งอยู่ที่ ถนนท่าหลวง ตำบลเวียง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย มี สาเหตุที่วัดนี้ มีชื่อว่า “วัดพระสิงห์” นั้น น่าจะเป็นเพราะครั้งหนึ่ง เคยเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสำคัญคู่บ้านคู่เมือง ของ ประเทศไทย คือ พระพุทธสิหิงค์ หรือที่เรียกกันในชื่อสามัญว่า“พระสิงห์”ปัจจุบันวัดพระสิงห์เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธสิหิงค์ (หรือพระสิงห์) จำลองศิลปะเชียงแสน ปางมารวิชัย ชนิดสำริดปิดทอง หน้าตักกว้าง ๓๗ เซนติเมตร สูงทั้งฐาน ๖๖ เซนติเมตร


ก่อนออกจากเมืองเชียงราย 
เราแวบทานกาแฟร้านชีวิตธรรมดา


กาแฟชีวิตธรรมดา มาเป็นก้อนน้ำแข็งกาแฟ วิธีทานให้เทนม และน้ำเชื่อม รอ น้ำแข็งละลายก็ดื่มได้ ...
ร่านตกแต่งสไตล์ อังกฤษ จัดไดสวยงามน่านั่ง ชิล ริมแม่น้ำกก 


มี gallery ย่อมๆๆ



ชิล..... 

วันพุธที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2556

@เชียงใหม่-เชียงราย day3 "ทำเวลา"


พอลงจากแม่สลอง มุ่งหน้าสู่ดอยตุง  ระยะทางไม่ไกล แต่สงสัยมาทางเก่าทำให้ต้องขึ้นเขา คดเคี้ยวยิ่งกว่าขึ้นดอยแม่สลอง รถสวนทางแทบจะไม่มี ... 


ถึงแล้วดอยตุง

fact.
พระตำหนักดอยตุงเริ่มดำเนินการก่อสร้างเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2530 เมื่อสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี มี พระชนมายุ 88 พรรษา โดยก่อนหน้านั้นมีพระราชกระแสว่า หลังพระชนมายุ 90 พรรษา จะไม่เสด็จไปประทับที่ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ สำนักงานราชเลขานุการในพระองค์ จึงได้เลือกดอยตุง ซึ่งมีทิวทัศน์สวยงาม ขณะเดียว กันสมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชชนนี เมื่อทรงทอดพระเนตรพื้นที่ เมื่อต้นปี พ.ศ.2530 ก็ทรงพอพระราชหฤทัย และมีีพระราชดำริจะสร้างบ้านที่ดอยตุงพร้อมกันนี้ ยังมีพระราชกระแสรับสั่งว่าจะ ปลูกป่าบนดอยสูงจึงกำเนิดเป็น โครงการพัฒนาดอยตุงขึ้น โครงการพัฒนาดอยตุงเริ่มดำเนินการโดยความร่วมมือจากหน่วยราชการทุกส่วน เช่น กรมป่าไม้ กรมชลประทาน หน่วยงานด้านปกครอง นอกจากทำการปลูกป่าฟื้นฟูสภาพพื้นที่แล้วยังมีการฝึกอาชีพ เพื่อ ยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวเขาบนดอยตุง ซึ่งประกอบด้วยชาวเขาเผ่าอาข่าลาหู่ ไทยใหญ่ และจีนฮ่อ ขณะเดียว กันยังคงรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีตนไว้

ดอยตุง ประกอบด้วย 4ส่วน
1.หอพระราชประวัติ
2.สวนแม่ฟ้าหลวง
3.อาคารพระตำหนักดอยตุง
4.พระธาตุดอยตุง พระธาตุศักดิ์สิทธิ์ประจำปีกุน 

ไปถึงก็กินกาแฟ... อีกแล้ว ...

ขึ้นพระตำหนักก่อน เพราะปิด 5โมงเย็น


เข้าไปด้านในพระตำหนัก 
คำเตือน เป็นสถานที่ที่ดูขลังมาก เข้าไปต้องเดินเบาๆ พูดเสียงดังไม่ได้ ไม่ได้มีใครห้ามนะคะ แต่พอรู้ประวัติ และฟังเทปบรรยาย แต่ละห้องในตำหนัก และกิจวัตรของสมเด็จย่า ข้างในรู้สึกตื้นตันแบบบอกไม่ถูก .... ซึ้ง.....
ออกมาจากตำหนัก รู้สึก อิ่ม... ค่ะ

บันทึกภาพไม่ได้เลยถ่ายประตูทางเข้าแทน..
วิวจากด้านบนตำหนัก ตามที่ฟังมา แต่ก่อนผืนป่า ไม่เขียวแบบนี้ เพราะโดนบุกรุก สมเด็จย่า ได้การบูรณะป่าใหม่ และรณรงค์ให้ชาวบ้านเลิกปลูกฝิ่น และสนับสนุนอาชีพอื่นๆแทน

ลงจากตำหนักมาที่ สวนแม่ฟ้าหลวง
fact.
เป็นสวนดอกไม้เมืองหนาว ในหุบเขา สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2535 เดิมมีพื้นที่ 12 ไร่ มีการปลูกดอกไม้หมุนเวียนสลับ ให้ออกดอกไม่ซ้ำกันตลอดสามฤดู ล้อมรอบประติมากรรมชื่อ "ความต่อเนื่อง" เป็นรูปเด็กยืนต่อตัวที่กลางสวน นอกจากนี้ ยังจัดแต่งสวนหินซึ่งประดับด้วยหินภูเขากลมเกลี้ยงขนาดใหญ่ สวนน้ำอุดมด้วยไม้น้ำพันธุ์ต่างๆ บัว และสวนปาล์มที่รวบ รวมปาล์มไว้มากมายในพื้นที่ 13 ไร่ สวนแม่ฟ้าหลวงจึงมีพื้นที่ทั้งสิ้น 25 ไร่

ช่วงที่ไปเดือนกันยา ดอกไม้ไม่เต็มอ่ะ แต่ก้อยังสวยยยยยยย....




ออกจากดอยตุงก็มุ่งหน้าไป แม่สาย... ไม่ได้ไปชอปปิ้ง นะคะ เพื่อไปถ่ายกับป้าย....นี้...
555 แค่นี้แหละ และก็เดินเล่น ตลาดของกินตอนเย็นริมถนน 

ทางเข้าไปพม่า 
มองลงไปที่แม่น้ำโขงที่กั้นระหว่างไทยพม่า เด็กๆเล่นน้ำกัน...


จากนั้นเวลา6โมงเย็น ทำไมท้องฟ้ามืดไวจัง ต้องทำเวลาไป สามเหลี่ยมทองคำ 30 km

สปีดเร็วกว่านรก 555++ จะทันไม๊แสงสุดท้าย


ถึงจนได้ นั่นไง "สามเหลี่ยมทองคำ"
fact.
สามเหลี่ยมทองคำ ตั้งอยู่ห่างจากเชียงแสนไปทางทิศเหนือ 9 กิโลเมตร ตามถนนเลียบริมแม่น้ำโขง สบรวกเป็นบริเวณแม่น้ำโขงซึ่งกั้นดินแดนระหว่างประเทศไทยและประเทศลาว มาพบกับแม่น้ำรวก ซึ่งกั้นดินแดนระหว่าง ประเทศไทยและประเทศพม่า จากจุดนี้นักท่องเที่ยวจะมองเห็นฝั่งพม่าและลาวได้ถนัดชัดเจน สามเหลี่ยมทองคำ เป็นที่ กล่าวขวัญกันในหมู่นักท่องเที่ยว เพราะครั้งหนึ่งเคยเป็นไร่ฝิ่นที่ใหญ่โตมาก เรียกว่าใหญ่ที่สุดในโลกก็ว่าได้ แต่ปัจจุบัน ไม่มีไร่ฝิ่นที่ว่านี้อีกแล้ว คงเหลือแต่ทิวทัศน์ที่เงียบสงบของลำน้ำและเขตแดนของ 3 ประเทศเท่านั้น เป็นจุดที่แม่น้ำรวก ซึ่งกั้นพรมแดนไทยและพม่า มาบรรจบกันแม่น้ำโขงที่กั้นไทยกับลาว จุดนี้นักท่องเที่ยวจะ เห็นฝั่งพม่าและลาวได้ถนัด ชัดเจน สามเหลี่ยมทองคำเป็นที่กล่าวขวัญกันในหมู่นักท่องเที่ยว เพราะครั้งหนึ่งเคย เป็นไร่ฝิ่นที่ใหญ่โตมากเรียกว่า ใหญ่ที่สุดในโลกก็ว่าได้ แต่ปัจจุบันไม่มีไร่ฝิ่นที่ว่านี้อยู่แล้ว คงเหลือแต่ทิวทัศน์ที่ เงียบสงบของลำน้ำและเขตแดนของ 3 ประเทศเท่านั้น แต่ผู้คนก็ยังคงพากันเดินทางมาสัมผัสกับตำนาน สามเหลี่ยมทองคำโดยมีที่มาขอชื่อ ว่าหลังจากที่พม่าี่ตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษ และลาวถูกฝรั่งเศสยึดครอง ก็เกิดการค้าขายสินค้าด้วยระบบและเปลี่ยนกันขึ้นโดย ทางฝั่งพม่านั้นจะมีผ้าแพร สินค้าจากจีน กระทะทองเหลือ และฝิ่นเป็นสินค้าที่นำมาแลกเปลี่ยนกับผ้าไหม ทองคำแผ่น และทองคำแท่งของพ่อค้าฝั่งลาว ซึ่งพ่อค้าลาวจำเป็น ต้องล่องเรือตามลำน้ำโขงมาขึ้นที่บ้านป่าสัก เขตเมืองพงของ พม่าซึ่งตั้งอยู่เหนือบ้านสบรวกของไทย ปีหนึ่ง ๆ มีการแลกเปลี่ยนสินค้ากันประมาณ 4-5 ครั้ง ทำให้บ้านป่าสักกลาย เป็นบริเวณขายที่เฟื่องฟูมากของสมัยนั้น และเพราะการและเปลี่ยนด้วยทองคำนี้เองจึงทำให้ชาวบ้านเรียกขานบริเวณนี้ กันจนติดปากว่า "สามเหลี่ยมทองคำ"



เริ่มหิวแล้ว.. น้ำมันก็ใกล้หมด ระยะทางกลับเมืองเชียงราย 60 km ไม่พอแน่ๆ 
จึงมุ่งหน้าไปเชียงแสน ซึ่งไม่ไกล.. หาร้านอาหารริมแม่น้ำโขงทาน เมนูเด็ด ต้มยำปลาบึก !!! ยอดผักมะระ หมูทอดกระเทียม อิ่มเบย

พระจันทร์เต็มดวงซะด้วย ลมเย็น ดูแม่น้ำ อาหารอร่อย  ชิลลลลลล จน ลืมไปเลยว่าน้ำมันใกล้หมด สำคัญปั๊มที่นี่ปิดเร็วมาก 2ทุ่มก็ปิดแล้วววว สรุป ต้องเติมปั๊มหลอด....555+


ทานเสร็จ ก็กลับเข้าเมืองเชียงราย มุ่งหน้าไปไนท์พลาซ่า เพื่อหา บัวลอยมือถือ เจ้าดังทาน แต่ปรากฏไปถึง3 ทุ่ม บัวลอยหมด อดกิน เสียดายจุง... 

เดินเล่นไนท์พลาซ่าแทน

ว่าทำไมเมืองเงียบ คนหายไปไหนหมด มาอยู่ที่นี่กันเอง 55+


ราตรีสวัสดิ์... เหนื่อย... แต่... สนุกมากค่ะ


@เชียงใหม่-เชียงราย day3 "ดอยแม่สลอง" คอนเสป สงบๆ จีนๆ (^^")


มุ่งหน้าไปดอยแม่สลอง ต้องยอมรับ 40 km จากพื้นดิน เป็นอะไรที่ทรหดใช้ได้เพราะ ลักษณะทางเป็นทางขึ้นไต่เขา แลคดเคี้ยวมากๆ ทางก็แคบ ชันเป็นบางช่วง ใช้เวลาขับรถ ชั่วโมงนิดๆ 

fact.
ดอยแม่สลอง ตั้งอยู่ ต.แม่สลองนอก อ.แม่ฟ้าหลวง เป็นชื่อเรียกรวมๆ ของชุมชนชาวจีนฮ่อ แห่งกองพล 93 ที่ตั้งหลักแหล่งบนดอยแห่งนี้มานานกว่า 40 ปี ปัจจุบันชุมชนชาวจีนบนดอยแม่สลอง มีชื่อว่า หมู่บ้านสันติคีรี ตั้งอยู่ที่ ความสูงจาก ระดับน้ำทะเล เฉลี่ย 1,200 ม. อากาศเย็นสบายตลอดปี รายได้หลัก มาจากการปลูกชาอู่หลง บ้านสันติคีรี เป็นชุมชน ขนาดใหญ่ มีประชากร ประมาณ 800 หลังคาเรือน มีทั้งวัด โบสถ์คริสต์ มัสยิด ระบบไฟฟ้า โทรศัพท์ และธนาคารทหารไทยบริการครบวงจร
ดอยแม่สลอง เป็นชุมชนของอดีตทหารจีนกองพล 93 สังกัดพรรคก๊กมินตั๋ง ของนายพลเจียงไคเช็ค ทำการรบ อยู่ทางตอนใต้ของจีน ในช่วง สงครามโลกครั้งที่ 2 ต่อมาเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในจีน เมื่อพรรคคอม มิวนิสต์ นำโดย เหมาเจ๋อตุง ยึดอำนาจสำเร็จ พรรคก๊กมินตั๋งจึงถอยร่น ไปปักหลักที่เกาะไต้หวัน กองพล 93 กลายเป็นกองกำลัง พลัดถิ่น ถูกกดดันอย่างหนัก จนถอยร่นเข้ามาในเขตพม่า แต่ถูกฝ่ายพม่าผลักดัน เกิดการ ปะทะ กันหลายครั้งจนต้องถอยร่นมาจนถึงเทือกดอยตุงชายแดนไทย ฝ่ายพม่าได้ร้องเรียนไปยังสหประชาชาติ เมื่อปี พ.ศ.2496 และมีมติให้อพยพ กองกำลังพลัดถิ่นไปยังประเทศไต้หวัน แต่ทหารสังกัดนายพลหลี่เหวินฝาน และนายพลต้วนซีเหวินราว 3 หมื่นคน ทำเรื่องขอลี้ภัยในประเทศไทย เนื่องจากไม่แน่ใจในอนาคต เพราะไต้หวัน เป็นเพียงเกาะเล็กๆ รัฐบาลไทยอนุญาติโดยจัดสรรให้ทหารของนายพลหลี่เหวินฝาน ไปอยู่ที่ถ้ำง้อบ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ส่วนทหารสังกัดนายพลต้วนซีเหวิน15,000 คน อยู่บนดอยแม่สลอง ตั้งแต่ปี พ.ศ.2504 เพื่อใช้เป็น กันชนกับชนกลุ่มน้อยทำให้ ดอยแม่สลอง ในยุคแรกเป็นดินแดนลี้ลับต้องห้าม มีปัญหายาเสพติด และกองกำลัง ติดอาวุธมาตลอด ทางการไทยได้พยายามแก้ปัญหาโอน กองกำลังเหล่านี้มาอยู่ในความดูแลของ กองบัญชา การทหารสูงสุด กระทั่งปี พ.ศ.2515 ครม.มีมติรับทหารจีนคณะชาติให้อาศัยในแผ่นดินไทย อย่างเป็นทางการ ยุติการค้าฝิ่น ปลดอาวุธ และหันมาทำอาชีพเกษตรกรรม โดยพล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ริเริ่มโครงการ ปลูกชา และปลูกสนสามใบ เพื่อทดแทนป่า ชุมชนบนดอยแม่สลองได้ชื่อใหม่ เป็นบ้านสันติคีรี มีการออกบัตรประชาชน ให้เมื่อปี พ.ศ.2521 ดอยแม่สลองคืนสู่ความสงบ และเป็นแหล่งท่องเที่ยว สำคัญนับ แต่นั้นมา ที่มา อินเตอร์เนต

ทางคดเคี้ยว ชันเป็นบางช่วง


จุดหมายแรกถึงแล้ว ไร่ชา 101 
มาชมไร่ชา พร้อมดื่มชาฟรี มีชาจำหน่ายด้วยนะคะ



สาธิตการชงชา


หอม กลิ่นชา 
ขั้นแรกก่อนดื่มชา ต้องเอาจอกส่วนบน มาดมก่อนนะคะ แล้วค่อยดื่มชา



มีคนมาถ่ายพรีเวดดิ้ง บนดอย ด้วย


มีป้ายติด ห้ามเด็ดยอดชา


หลังจากชอป ชิม ชิล เรียบร้อยก็หาอะไรลงท้อง ต้องขับเข้าไปอีก7กิโล จึงถึงตัวเมือง (อะไรจะไกลแบบนี้) พอขับเข้าเมือง ก็สัมผัสได้ว่าเป็นเมืองเล็ก สงบๆ มีร้านกาแฟ เกสเฮาท์ อยู่ประปราย อากาศดีอ่ะ เย็นสบาย


ถึงแล้วร้านเป้าหมาย มาทานอาหารจีนยูนนานกัน อาหารแนะนำ หมั่นโถว ขาหมู เห็ดหอมทอดซีอิ้ว ยอดมะระผัดน้ำมันหอย ,etc

เห็นแล้วหิวววววอ่าาาาา


ทานเสร็จก็ขับแวบไปถ่ายหลักกิโลยักษ์ 0 กิโล  แม่สลองสักหน่อย 

 โอเคจุดหมายต่อไป ....ดอยตุง....

@เชียงราย day3 "บ้านดำ" อ. ถวัลย์

บ้านดำ หรือ พิพิธภัณฑ์บ้านดำ ตั้งอยู่ที่ ต.นางแล อ.เมือง จ.เชียงราย สร้างขึ้นโดย อ.ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติ ที่มีฝีมือทางด้าน จิตรกรรม ปฏิมากรรม ได้สร้างงานด้านศิลปะไว้มากมาย ทั้งทางด้านภาพเขียน และ ด้านปฏิมากรรม หลายชิ้น ลักษณะ ของ บ้านดำจะเป็นกลุ่มบ้าน ศิลปะแบบล้านนา ทุกหลังทาด้วยสีดำ ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า “บ้านดำ” และยังเป็นสีที่ อ. ถวัลย์โปรดปราน อีกด้วย


มาถึงก็ต้องซื้อเสื้อลายฝีมือการวาดของ อาจารย์ท่านสักหน่อย ลายเส้นเป็นเอกลักษณ์จริงๆ...

ภาพนี้มูลค่า เบาะๆ20ล้านเอ้งงงง 555+

รอยมือ ท่านอาจารย์...

เข้ามาข้างใน เจอคราบงูตัวยาวมาก วางกลางห้องเลยย...

ตรงด้านใน ก็มีศิลปะการวางหิน...ไม่เข้าใจความหมาย สงสัยแล้วแต่คนตีความ...



อิอิ ลายม้า เหมือนลาย วัวเลยยยย


สวยจริงๆ สีดำของบ้าน ตัด กับสีฟ้า ของท้องฟ้า...








สุดท้ายด้วยปฏิมากรรมที่ล้ำสมัย อันเดียวในบ้านดำนี้ค่ะ
ออกจากบ้านดำ เราก็มุ่งหน้าไปร้านกาแฟ เป้าหมายอีกที่ คือ ร้าน parabola ขับเลียบถนน มุ่งไปแม่สาย จะเห็นกล่องแดงๆ เด่นชัดเลยค่ะ มีทั้งกาแฟ และ อาหาร บริการ...


กาแฟแก้วนี้สุดยอด กาแฟ กล้วยปั่น .. อีกอันที่แนะนำ กาแฟ พาราโบล่าเลยค่ะ เข้มกำลังดี หายง่วงชะงัด...






Thump up this cup!!!!



เก็กสวยๆ อิอิ








เสร็จจากนั่งชิล จิบกาแฟ เป้าหมายต่อไปก็ ลุยต่อ บนดอยแม่สลอง ค่ะ ψ(`∇´)ψ